เทคนิคการตั้งราคาค่าเช่าเต็นท์ภายในรีสอร์ทให้ได้ราคาที่คุณและลูกค้าของคุณก็ต่างถูกใจ

คงปฏิเสธไม่ได้นะครับ ว่าหากคุณเปิดรีสอร์ทไม่ว่าจะแนวไหนก็ย่อมต้องการกำไรด้วยกันทั้งสิ้น เพื่อนำเงินมาปรับปรุงรีสอร์ทให้สวยและน่าพักมากยิ่งขึ้น

แล้วที่พักแบบเต็นท์กระโจมจะทำยังไงให้คุณได้ค่าที่พักแบบที่คุณเองก็ยิ้มสบายใจเมื่อลูกค้าเข้าพัก แต่ก็ไม่ทำให้ลูกค้าของคุณมองว่าที่พักของคุณมีราคาแพงกว่ารีสอร์ทที่อื่น ในวันนี้ในฐานะที่ผมเป็นหนึ่งในผู้บริหารบ้านเขาค้อทั้ง 2 สาขา จะขออนุญาตแนะนำเจ้าของหรือว่าที่เจ้าของรีสอร์ทคนใหม่ โดยการแบ่งราคาออกเป็นช่วงเรทราคาตามลำดับความหรูหรา ดังต่อไปนี้

1. ช่วงราคาระหว่าง 500-900 บาท สำหรับผู้เข้าพัก 2-4 คน เป็นช่วงราคาที่เรียกได้ว่ามีราคาสูงกว่าที่พักเต็นท์ธรรมดา เพียงเล็กน้อย โดยราคาระดับนี้คุณไม่จำเป็นต้องปรับพื้นที่ภายในรีสอร์ทมากสักเท่าไหร่ ขอเพียงมีพื้นที่ดินที่ติดวิวสักหน่อย และด้วยเต็นท์กระโจมที่ยังไงก็ดูดีกว่าเต็นท์ธรรมดาอยู่แล้ว ก็ไม่ยากที่ลูกค้าจะจ่ายเงินค่าเช่าที่พักกับคุณ

2. ช่วงราคาระหว่าง 1,000-1,800 บาท สำหรับผู้เข้าพัก 2-4 คน สำหรับการตั้งราคาแบบนี้ รีสอร์ทหรือที่พักของคุณจำเป็นต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกและวิวภายในรีสอร์ทในระดับปานกลาง โดยคุณอาจนำไฟกระพริบและไฟตกแต่งอื่นๆมาทำให้เต็นท์กระโจมสวยงามเข้าไปอีก ควรมีเตาปิ้งย่างหรือหมูกระทะบริการให้ลูกค้าของคุณได้มีกิจกรรม

3. ช่วงราคาระหว่าง 1,900-2,500 บาท สำหรับผู้เข้าพัก 2-4 คน ถือได้ว่าราคาเรทนี้เทียบเท่ากับที่พักแบบห้องพักที่มีแอร์แล้ว เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าที่รักจะใกล้ชิดธรรมชาติแล้ว คุณต้องมั่นใจว่าเต็นท์กระโจมของคุณอยู่ในตำแหน่งวิวที่ใช่จริงๆ เช่น หากอยู่บนเขา ควรอยู่ในตำแหน่งวิวหมอก หากเป็นที่พักในจังหวัดที่มีทะเล ก็ควรอยู่ใกล้ชายหาด และจัดเตรียมผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ให้ลูกค้าของคุณประทับใจ

4. ช่วงราคาระหว่าง 2,600 บาทขึ้นไป สำหรับผู้เข้าพัก 2-4 คน เรียกได้ว่าหากลูกค้าของคุณยอมที่จะจ่ายราคาในระดับที่สามารถเช่าบ้านพักส่วนตัวได้เลย เต็นท์กระโจมของคุณก็ต้องไม่ธรรมดา ทั้งการตกแต่งต้องจัดเต็ม แอร์ตั้งพื้น ขนาด(BTU)มากกว่า 12,000 จำเป็นต้องมี(หากเลือกแอร์แบบเคลื่อนที่จะกินไฟมาก) โซฟาและโต๊ะวางของสวยงามภายในเต็นท์ ห้องน้ำส่วนตัวสำหรับลูกค้า 1ห้องต่อเต็นท์ 1 หลัง และบริการอาหารเช้า